สัปดาห์แรกของเดือมีนามคม เริ่มต้นด้วยข่าวความขัดแย้งระหว่างประเทศในเอเชีย
เริ่มด้วย
ปัญหาภายในประเทศของเกาหลีใต้เองหลายเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่การถอดถอน พัค กึนเฮ ประธานาธิบดีคนล่าสุดของเกาหลีใต้
จากที่สภาเกาหลีใต้มีมติเป็นเอกฉันท์ถอดถอนให้พ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดี (Impeachment) จากกรณีพัวพันการคอรัปชั่นหลายคดี
จนประชาชนเกาหลีใต้ต้องออกมาประท้วงกันครั้งใหญ่ (สาเหตุการเดินขบวนประท้วงที่กินเวลาหลายเดือน
มาจากหลายๆเรื่องตั้งแต่เรื่องคดีเรือเซวอลล่ม คดีนำเข้าเนื้อวัวที่มีโรค
จนถึงความพยายามที่จะเปลี่ยนประวัติศาสตร์บิดาของตนเองจากดำให้เป็นขาว)
ภาพคนเดินถือป้ายต่อต้านประธานาธิบดีพัค กึน เฮ (โดย The Associated Press)
กรณีสำคัญคือการที่ประธานาธิบดี
ปล่อยให้เพื่อนสนิทเข้ามาแทรกแซงในการบริหารงานของรัฐบาล
และการให้เพื่อนสนิทแอบอ้างใช้ตำแหน่งประธานาธิบดีให้บริษัทหลายแห่งบริจาคเงินแต่นำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
หลังจากการญัตติการถอดถอนออกมา
ขณะนี้ประธานาธิบดีพัค ยังคงอยู่ในที่พักทำเนียบ
รอกระบวนการศาลที่พิจารณาเวลาหลายเดือน
โดยหากการถอดถอนมีกระบวนการพิจารณาออกมาเป็นทางการ
พัค กึน เฮ จะถือว่าเป็นประธานาธิบดีคนแรกจากการเลือกตั้งของเกาลีใต้ที่ถูกกระบวนการ
Impeachment
การเมืองภายในที่ระส่ำระส่ายยังไม่เพียงพอ
การเมืองภายนอกก็ยังครุกกรุ่น เกาหลีใต้พบความขัดแย้งกับจีน ที่มาที่ไปคือหลังจากที่สหรัฐต้องการสร้างฐานขีปนาวุธ
(THAAD) ที่เกาหลีใต้
จีนจึงเกิดความระแวงว่าจะเป็นฐานซุ่มโจมตีจีนหรือไม่ จึงโต้กลับด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจ
รวมถึงเรื่องการค้าแทน
ในปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ การค้า จีนสั่งแบนธุรกิจแหล่งใหญ่หลายประเภทเกาหลีใต้ในจีน
ทั้ง บริษัทรถยนต์ ‘ฮุนได’ บริษัทเครือโรงแรม และเครื่องสำอาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มบริษัท ลอตเต้
กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่อันดับต้นๆของเกาหลีใต้ ที่ให้ที่ดินสหรัฐในการติดตั้งขีปนาวุธ
ส่งผลให้ห้างลอตแต้สาขาในจีน ไม่มีผู้คนมาใช้บริการ ด้านการท่องเที่ยวทัวร์จีนทั้งหลายต่างถูกระงับในการเดินทางไปเกาหลีใต้
อย่างไรก็ตามฝั่งสถานทูตเกาหลีใต้ได้ออกมาประกาศว่ายังคงต้อนรับคนจีนในการทำวีซ่าได้ตามปกติ
พร้อมยังเพิ่มการอำนวยความสะดวกมากขึ้น
กรณีนี้ส่งผลให้หุ้นโซลร่วงติดลบ
ทั้งยังเกิดการประท้วงห้างลอตเต้ในจีน ส่วนทางด้านสถานทูตเกาหลีใต้ได้ออกคำสั่งคุ้มครองพลเมืองเกาหลีใต้ในจีน
จากการเมืองลามไปถึงเรื่องวัฒนธรรม อุตสาหกรรมเพลง K-Pop ของเกาหลีใต้ประสบปัญหาถูกแบนจากประเทศจีนเช่นกัน เป็นเวลาหลายเดือนแล้วตั้งแต่จีนมีคำสั่งห้ามศิลปินเกาหลีเปิดทำการแสดงในจีน ซึ่งจีนถือว่าเป็นตลาดเพลงที่ทำรายได้ให้กับเกาหลีใต้อย่างมาก
จากการเมืองลามไปถึงเรื่องวัฒนธรรม อุตสาหกรรมเพลง K-Pop ของเกาหลีใต้ประสบปัญหาถูกแบนจากประเทศจีนเช่นกัน เป็นเวลาหลายเดือนแล้วตั้งแต่จีนมีคำสั่งห้ามศิลปินเกาหลีเปิดทำการแสดงในจีน ซึ่งจีนถือว่าเป็นตลาดเพลงที่ทำรายได้ให้กับเกาหลีใต้อย่างมาก
จากกรณีของเกาหลีใต้ และจีน หากนักท่องเที่ยวจีน นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ หรือศิลปินเกาหลี เข้ามาไทยเป็นพิเศษในช่วงนี้ คงไม่เป็นที่สงสัยกันเลยทีเดียว ไทยแลนด์แดนสมายด์ เป็นมิตรกับทุกประเทศ.......
สถานการณ์ล่าสุดนางปาร์ค กึนเฮ
ได้เดินทางไปรับฟังศาลศาลตัดสินคดีคอรัปชั่น ขณะนี้ถูกกักกันเดี่ยวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยปาร์คกึน เฮถือว่าเป็นประธานาธิบดีคนที่ 3 ของเกาหลีใต้ที่ถูกตัดสินคดีเช่นนี้
ภาพข่าว คิม จอง นัม ถูกพบว่าเสียชีวิตที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ (Reuters)
มาถึงฝั่งโสมแดงอย่างเกาหลีเหนือ นอกจากข่าวการพยายามพัฒนาขีปนาวุธแล้ว
ข่าวใหญ่ในรอบหลายอาทิตย์นี้คงเป็นข่าวอื่นไม่ได้นอกจาก ข่าวการสังหาร นายคิม
จองนัม พี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือคนปัจจุบัน ที่มาเลเซีย
หลังจากเหตุการณ์นี้ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือ-มาเลเซีย
แย่ลงเรื่อยๆ ล่าสุดมาเลเซียมีคำสั่งให้ นายคัง ซอล เอกอัคราชทูตเกาหลีเหนือออกจากมาเลเซียภายใน
48 ชม. หลังจากที่เกาหลีเหนือวิจารณ์การสืบสวนคดีการสังหารครั้งนี้ว่าไม่โปร่งใส
อาจมีการแทรกแซงจากชาติมหาอำนาจเพื่อลงโทษเกาหลีเหนือ และไม่ยอมออกมากล่าวขอโทษ
ทางการมาเลเซียไม่พอใจ จึงสั่งขับทูตเกาหลีเหนือเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนาและต้องออกจากประเทศภายใน
48 ชม.”
ต่อมาความเคลื่อนไหวล่าสุด(31มีนาคม2017)ทางการมาเลเซียได้ตกลงยอมส่งศพนายคิม
จองนัมกลับเกาหลีเหนือโดยแลกกับการที่ทางการเกาหลีเหนือปล่อยตัวประกันชาวเมเลเซียที่ถูกกักกันอยู่
ณ กรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ
โดยอย่างไรก็ตามทางการมาเลเซียจะยังคงดำเนินการสืบสวนคดีกันต่อไป
สุดท้ายสถานการณ์ทางการเมืองของภายในประเทศจะเป็นเช่นไร
คงต้องเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป แต่สถานการณ์จะไม่ลุกลามบานปลายไปกว่านี้
หากไม่มีประเทศมหาอำนาจหรือประเทศที่สามยื่นมือเข้ามาปลุกปั่น หรือถือมือเข้ามากระทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
เก็บไว้ให้ทิ้งท้ายยย
การใช้มาตรการลงโทษทางด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว
แบบนี้ ไม่ถือว่าเป็นการใช้อำนาจในด้าน Soft power เพราะ
เป็นการใช้มาตรการลงโทษโดยการบังคับ (Coercion) ถือเป็นการใช้
Hard power ***หากเป็น Soft Power จะเป็นเรื่องการมีอิทธิพลทางด้านความคิดแทน ตัวอย่างง่ายๆ เช่น American Pop Culture
ขอขอบคุณแหล่งข่าวดีๆ
http://m.posttoday.com/world/news/483577
http://www.matichon.co.th/news/389353
Twitter @forLUMIN
@Guitar_BBty
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น