นโยบายทรัมป์ ความเป็นไปของสหรัฐอเมริกาในอนาคต
คำว่า “Make America Great Again” เป็นคำกล่าวที่ถือว่าเป็นที่จดจำไปทั่วโลกของโดนัล
ทรัมป์ที่ได้กล่าวไว้ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง จนในที่สุดเอาชนะใจคนอเมริกันที่ไปลงคะแนนเสียง
และส่งผลให้ทรัมป์ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐอเมริกา
วิสัยทัศน์ของทรัมป์ในด้านนโยบายการบริหารประเทศ
มีความแตกต่างกับประธานาธิบดีคนก่อนอย่างบารัก โอบามา ทั้งอาจมาจากพื้นหลังดั้งเดิมหรือจะเป็นมุมมองการเมืองที่มีความเห็นไม่ตรงกัน
ส่งผลต่อความเป็นไปในอนาคตของทั้งสหรัฐอเมริกาและส่งผลกระทบไปทุกประเทศทั่วโลก
ยกเลิก Obamacare
นโยบายแรกที่ทรัมป์ได้ใช้อำนาจประธานาธิบดีเซ็นอนุมัติหลังจากการเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
คือ การยกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพของโอบามา (Obama Care)
ที่โอบามามีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวอเมริกันในการลดค่าใช้จ่าย
ในส่วนนี้ทรัมป์ได้มีความคิดเห็นตรงกันข้ามกับโอบามาโดยชัดเจน
เพราะจากวิสัยทัศน์ของพรรค Republican ของทรัมป์ที่โดยส่วนใหญ่สมาชิกพรรคประกอบธุรกิจขนาดใหญ่
จะไม่ให้การสนับสนุนในเรื่องการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายแก่คนยากไร้
ซึ่งตรงกันข้ามกับพรรค Democrat ของโอบามา
โดยสมาชิกพรรคคนหนึ่งได้กล่าวว่าหากยกเลิกนโยบายประกันสุขภาพต่างๆจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายประเทศได้หลายล้านเหรียญสหรัฐ
ถอนตัวจากการเป็นสมาชิก TPP
ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภูมิภาคแปซิฟิค หรือ TPP : Trans-Pacific Partnership ถือเป็นเขตการค้าเสรี (FTA) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ประกอบด้วยประเทศสมาชิก ได้แก่ สหรัฐ ญี่ปุ่น แคนาดา เม็กซิโก ออสเตรเลีย
นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน เวียดนาม ชิลี เปรู โดยมีสหรัฐเป็นผู้นำหลัก
ดำเนินการในสมัยของโอบามา
การใช้อำนาจประธานาธิบดีถอนตัวออกจาก TPP ของทรัมป์
ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสหรัฐมากมาย เพราะTPP เป็นการดำเนินงานของโอบามาที่ยังไม่ได้ผ่านการอนุมัติจากสภา
Congress และยังไม่มีผลเป็นรูปธรรม
มีเพียงการลงนามการเป็นภาคีในความร่วมมือ ความตั้งใจของสหรัฐในสมัยโอบามา ที่ต้องการคานอำนาจทางการค้ากับจีนในภูมิภาคเอเชียดูเหมือนจะริบหรี่ลงในสมัยของทรัมป์
แน่นอนว่าทรัมป์ต้องการลดค่าใช้จ่ายของสหรัฐภายนอกประเทศ พร้อมหันกลับมาพัฒนาในสหรัฐแทน
อย่างไรก็ตามการถอนตัวของสหรัฐ ที่เป็นตัวการหลัก
ส่งผลต่อความไว้วางใจต่อประเทศสมาชิกอื่นๆใน TPP แม้ว่าญี่ปุ่น หนึ่งในประเทศที่มีกำลังเศรษฐกิจเจริญเติบโตในเอเชีย
ตั้งใจสานต่อความร่วมนี้ก็ตาม โดยที่นายกญี่ปุ่น ชินโซะ อาเบะ กำลังอยู่ในการนัดหารือใหม่เรื่องนโยบายเศรษฐกิจกับประธานาธิบดีโดนัล
ทรัมป์
เปลี่ยนแปลง NAFTA
ความร่วมมือทางการค้าเสรีที่สำคัญอีกหนึ่งเขต คือ
ข้อตกลงการค้าเสรีในทวีปอเมริกาเหนือ NAFTA ที่ประกอบไปด้วย
สหรัฐอเมริกา แคนาดา และแม็กซิโก
ทรัมป์ได้มีคำสั่งนัดเจรจา แก้ไขข้อตกลงนี้กับผู้นำทั้งอีกสองประเทศ
โดยเฉพาะกับแม็กซิโก ซึ่งรวมไปถึงเรื่องการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนระหว่างกัน และการตรวจเข้มเรื่องการเข้าสหรัฐของคนแม็กซิกัน
Promote Pipeline
วิสัยทัศน์หนึ่งของทรัมป์จากพรรค Republican คือ
การไม่ส่งเสริมการลดภาวะโลกร้อน และการรักษาสิ่งแวดล้อม เหตุผลหนึ่งคะเนได้จากการที่ทั้งทรัมป์เองและสมาชิคพรรคคนอื่นมีกิจการส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
มีความจำเป็นในการใช้น้ำมันเป็นเชื่อเพลิง แน่นอนว่าหากลดกำลังการผลิตลง
และเข้าร่วมข้อตกลงความร่วมมือลดโลกร้อนต่างๆแบบที่สมัยโอบามาปฏิบัติ
จะส่งผลต่อธุรกิจ โรงงานอุตสาหกรรมมหาศาล และอีกทางหนึ่งคือหากประเทศลดอุตสาหกรรมการผลิตลง
จะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศในโลกกาภิวัตน์เช่นนี้ (วิเคราะห์ตามหลัก Limit
to Growth : Green Theory)
สอดคล้องกับการเดินหน้าโครงการสร้างท่อส่งน้ำมัน Keystone XL และ Dakota
Access ของทรัมป์ ที่โอบามาสั่งยุติชั่วคราว จากการมีผู้เดินขบวนต่อต้านโครงการนี้จำนวนมากรวมถึงคนในแคนาดา
จากผลที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ต่อต้าน Refugees
อีกหนึ่งปราศรัยสำคัญที่สร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลก คือ
นโยบายต่อต้านคนมุสลิมและผู้อพยพเข้าสหรัฐ เมื่อเข้าดำรงตำแหน่ง ทรัมป์เตรียมใช้คำสั่งอำนาจประธานาธิบดี
ห้ามผู้อพยพ ที่ลี้ภัยมาจากประเทศมุสลิมบางประเทศเข้าสู้พรมแดนสหรัฐ เช่น จากซีเรีย
อิรัก อิหร่าน เยเมน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน
Mexican Border wall
รวมถึงอีกวาทะสำคัญที่ต่อต้านคนแม็กซิโกเข้าสหรัฐ
จากการที่ทรัมป์มองว่าคนแม็กซิโกเข้ามาแย่งงานคนอเมริกัน
แต่แรกทรัมป์เสนอให้แม็กซิโกเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการสร้างเองทั้งหมด
แต่ประธานาธิบดีเอ็นริเก นิเอโตของแม็กซิโก ปฏิเสธว่าจะไม่จ่ายเด็ดขาด
ถ้าจะต้องจ่ายต้องเป็นผลประโยชน์โดยทั้งสองฝ่ายเท่านั้น
ทรัมป์ จึงตอบโต้โดยจะปรับภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก 5-20% เพื่อนำค่าขึ้นภาษี
มาจ่ายค่ากำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก ส่วนนี้ผู้วิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่าส่งร้ายมากกว่าผลดี
โดยเฉพาะกับประชาชนชาวอเมริกันเอง เพราะสินค้าโดยส่วนใหญ่นำเข้ามาจากแม็กซิโก
หากขึ้นภาษีนำเข้าประชาชนอเมริกันจะต้องแบกรับภาระมากขึ้นไปอีก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีโรงงานที่ตั้งอยู่ในแม็กซิโกโดยส่วนมาก
จากการปฏิเสธของประธานาธิบดีแม็กซิโกส่งผลให้การนัดพบกันระหว่างทรัมป์และเอ็นริเกเป็นอันต้องยกเลิกไป
ล่าสุดประกาศจากพรรค Republican แถลงว่าจะนำงบประมาณสำรองที่ไม่ใช่ส่วนของงบประมาณส่วนกลาง
ออกมาใช้ในการสร้างกำแพงแทน โดยต้องรออนุมัติงบจากสภา Congress เสียก่อน
แหล่งอ้างอิง ขอขอบคุณ
Twitter
@pannikawanich
@Suchanee_R
รายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ,27/01/2017
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น