ความร่วมมือด้านการค้าระหว่างประเทศของไทย
- เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area :
AFTA)
เป็นข้อตกลงทางการค้า
เพื่อการเปิดเสรีด้านการค้าและการลดภาษีและอุปสรรคข้อกีดขวางทางการค้า
รวมทั้งการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภาษีศุลกากรเพื่อเอื้ออำนวยต่อการค้าเสรี
ประกอบด้วย สมาชิก 10 ประเทศอาเซียน :
กัมพูชา ไทย บรูไน พม่า ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย
และแบ่งย่อยเป็นกลุ่มความร่วมมือ ได้แก่
1.
กลุ่มอาเซียน
+3 : กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน 10
ประเทศ + 3 ประเทศคู่เจรจา : จีน ญี่ปุ่น
เกาหลีใต้
2.
กลุ่มอาเซียน
+ 6 : อาเซียนบวก3 + นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย อินเดีย
3.
กลุ่มอาเซียน
+ 9 : กลุ่มอาเซียนบวก6 + สหรัฐฯ แคนาดา รัสเซีย
- ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
เอเชีย-แปซิฟิก (APEC)
กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่างเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ก่อตั้ง 1989
ที่ทำการ สิงคโปร์ ประกอบด้วย 21 เขตเศรษฐกิจ
(19ประเทศ 2 เขตเศรษฐกิจ): สหรัฐฯ
แคนาดา เม็กซิโก ชิลี เปรู จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย บรูไน ไทย เวียดนาม
อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ปาปัวนิวกินี
(ประเทศสังเกตการณ์อาเซียน) ฮ่องกง ไต้หวัน นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย
การจัดการประชุมล่าสุด
2017
ณ เมืองดานัง เวียดนาม กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2018 ณ ปาปัวนิวกินี และ 2019 ณ ชิลี
- ความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค (RCEP)
ความร่วมมือระหว่าง
ประเทศอาเซียน 10 ประเทศ + ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
(หรือที่รู้จักกันในนาม อาเซียน+6) = 16 ประเทศ โดย RCEP
ครอบคลุม ทั้งตลาดสินค้า และตลาดการลงทุนโดยการเปิดตลาด ล่าสุด
ต้นปี 2017 มีการเจรจาเปิดสินค้า 80% : สินค้า 65% ปลอดภาษี และอีก 15% จะปลอดภาษีในอีก 10-15ปีข้างหน้า ส่วนอีก 20%
ยังอยู่ในการเจรจาเพราะเป็นสินค้าอ่อนไหว และอ่อนไหวสูง
เมื่อสหรัฐฯถอนตัวออกจาก
TPP ญี่ปุ่น
ซึ่งเป็นสมาชิกทั้ง TPP และ RCEP ได้เร่งจัดการประชุมคณะกรรมการเจรจาด้านการค้า
RCEP แต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ในเรื่อง
การลดภาษีสินค้าระดับสูงกับทุกประเทศเท่ากัน (อาเซียนเห็นพ้อง แต่อีก6ประเทศยังไม่ตกลง)
การเชื่อมอาเซียนเข้ากับเศรษฐกิจโลก :
RCEP vs TPP
- RCEP มีความยืดหยุ่นมากกว่า
เพราะเป็นการเรจาในนามอาเซียน ซึ่งต้องใช้หลัก “ฉันทามติ”
ก่อนที่จะเสนออีก 6 ประเทศ จากนั้นทั้ง 16
ประเทศร่วมเจรจาให้ได้ฉันทามติ จึงไม่มีประเทศใดชี้นำได้ (TPP
แต่เดิมสหัฐมีบทบาทมาก)
- RCEP
กำหนดประเทศที่ให้สัตยาบัน จึงมีผลบังคับใช้ ต่างจาก TPP
ที่ดู GDP ซึ่งมีค่ากำหนด 85% ของมูลค่า GDP ร่วมของประเทศสมาชิก
นโยบายเศรษฐกิจรัฐบาล
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
“ไทยแลนด์ 4.0”
- เป็นนโยบายการวางรากฐานประเทศในระยะยาว
โดยเป็นจุดเริ่มต้นการขับเคลื่อนสู่ประเทศที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
- รูปแบบที่มีการผลักดันการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ
การวิจัย การพันา และการศึกษาไปพร้อมกัน
- เป็นการผนึกกำลังของทุกภาคส่วนภายใต้แนวคิด
“ประชารัฐ” ที่ผนึกกับเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจ
- ขับเคลื่อนประเทศสู่
เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Valued-Based
Economy)
ฐานคิดหลัก
- เปลี่ยนการผลิต
โภคภัณฑ์ เป็น นวัตกรรม (ไม่ใช้ปุ๋ย)
- จากการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยภาค
อุตสาหกรรม เป็น เทคโนโลยี นวัตนกรรม และความคิดสร้างสรรค์
- จากเน้นภาคผลิต
เป็น เน้นภาคบริการ
- จากเกษตรดั้งเดิม
เป็น เกษตรสมัยใหม่ ที่เน้นการจัดการและเทคโนโลยี (Smart Farming) โดยเกษตรกรเป็นผู้ประกอบการ
(entrepreneur)
- จาก SMEs ที่รัฐต้องช่วย เป็น Smart
Enterprises และ Startup บริษัทเกิดใหม่ที่มีศักยภาพสูง
- จากแรงงานทักษะต่ำ เป็น แรงงานทักษะสูง
เชี่ยวชาญรับมือกับการเปลี่ยนแปลงใน ศตวรรษที่ 21 ได้
ที่มา
4.0
- จากเดิม
ยุค 1.0 เน้นการเกษตร
(สมัยร.4) ผลิตและขาย จำพวกพืชไร่พืชสวน
- 2.0 เน้นอุตสาหกรรมเบา (สมัยจอมพลสฤษดิ์) : ผลิตรองเท้า เครื่องหนัง
เครื่องนุ่งห่ม เครื่องดื่ม
- 3.0
อุตสหกรรมหนัก + เน้นการส่งออก (สมัยพลเอกเปรม) :เหล็กกล้า
ยานยนต์ กลั่นน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ
ประเทศไทยกับปัญหา กับดักรายได้ประเทศปานกลาง เดินหน้าสู่ 4.0 ! เป็นเศรษฐกิจใหม่ (New Engine of Growth) ที่มีรายได้สูง
เป้าภายใน 5 ปี
โดยเป้าพัฒนา
4.0 พัฒนาต่อยอด
1.
กลุ่มอาหารเกษตรเทคโนโลยีชีวภาพ
: เทคโนโลยีอาหาร เกษตรที่ไม่ใช้ปุ๋ย
2.
กลุ่มสาธารณะสุข
: สปา พัฒนาเทคโนโลยีการแพทย์
3.
กลุ่มเครื่องมือ
: เทคโนโลยีหุ่นยนต์
4.
กลุ่มดิจิตัล
: การศึกษาออนไลน์,
e-commerce , Net banking, e-marketplace
5.
กลุ่มอุุตสาหกรรมสร้างสรรค์วัฒนธรรม
: การท่องเที่ยว
เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นภายในต้นปี 2018 ที่ผ่านมา
ท่าทีของ UN และ EU ต่อประเด็นโทษประหารชีวิตในประเทศไทย
ฝ่าย UN ได้แสดงความเห็นว่าไทยไม่แจ้งกระบวนการต่อสาธารณะชนล่วงหน้า
ซึ่งขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนทางการเมืองด้านการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของรัฐ
และไทยได้ดำเนินการสวนทางกับการให้คำมั่นสัญญาที่จะดำเนินมาตรการต่างๆ
เพื่อยกเลิกโทษประหารชีวิต ที่ให้ไว้เมื่อปี 2016
ส่วน EU บอกว่าการประหารชีวิตนักโทษของไทยครั้งนี้ทำให้ไทยถดถอยด้านกระบวนการสิทธิมนุษยชนไปอีกหลายเท่า
IUU การทำประมงผิดกฎหมาย : ไม่รายงาน และ
ไร้การควบคุม
โดย EU
ให้ใบเหลืองกับไทยตั้งแต่ 2015 ซึ่งมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าประมงของไทย
รัฐจึงใช้อำนาจรีบแก้ไขปัญหา
1.
ออกพ.ร.ก
การประมง 2558 และแก้ไขปี 2560
ออกกฎระเบียบข้อบังคับตามมาอีก 300 ฉบับ
พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
2.
ศาลอาญาได้ตั้งผู้พิพากษาคดีประมงแยกพิเศษเป็นการเฉพาะ
3.
จัดระบบการติดตามผลงาน
จัดฐานข้อมูล เช่น จำนวนเรือ ท่าเทียบเรือ ให้ชัดเจน
ด้านการติดตาม
จัดตั้งศูนย์ควบคุมและเฝ้าระวังการทำประมง
และจัดตั้งศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้าออก (PIPO)
ด้านการตรวจสอบย้อนหลัง
จากการจัดระเบียบท่าเทียบเรือ ต้องผ่านการตรวจสุขอนามัย
และมีเอกสารกำกับซื้อขายทุกครั้ง
ด้านแรงงาน
มีการปรับปรุง พ.ร.ก. บริหารงานแรงงานต่างด้าว การวางระบบตรวจสอบแรงงานที่ศูนย์ PIPO เช่น แรงงานเข้าออกงานตรงเวลา
จัดล่ามสัมภาณ์แรงงานเพื่อสืบสวนการเอารัดเอาเปรียบ พฤติกรรมการค้ามนุษย์
แรงงานเด็ก
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
- ไทยได้รับการยอมรับ + มุมมองแง่บวกจากนานาชาติ เพิ่มความเชื่อมั่นสินค้าประมงไทยในการส่งออกตลาดโลก
2017 องค์กรการบินพลเรือน (ICAO) ปลดธงแดงด้านการบินไทยแล้ว
ผลประโยชน์ที่ได้รับ
- เป็นที่ยอมรับมาตรฐานการบินระดับมาตรฐานสากล
(ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น)
- สามารถเพิ่มเที่ยวบิน
(สายการบินต่างประเทศเปิดเที่ยวบินมาไทยมากขึ้น)
- ขยายจุดบินเพิ่มในต่างประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
ซึ่งห้ามไทยขยายจุดบินและเส้นทางบินเพิ่มหลังจากไทยติดธงแดง
ล่าสุดปี
2018 เที่ยวบินใหม่ หัวหิน-มาเลเซีย
สายการบินแอร์เอเชีย 4เที่ยวบิน/สัปดาห์
จีนแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคใหม่
ภาพ : รายการ มิติโลก
- ยกเลิกการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี
(จากเดิมจำกัด 2 สมัย)
- บรรจุแนวคิด
“สี จิ้นผิง” เป็นแนวคิดสังคมนิยมแบบจีนสำหรับคนยุคใหม่
- เน้นบทบาทของพรรคคอมมิวนิสต์
- จัดตั้ง “คณะกรรมาธิการกำกับดูแลแห่งชาติ” เพื่อแก้ปัญหาคอรัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ
โดย
“คณะกรรมาธิการกำกับดูแลแห่งชาติ”
- มีฐานะเทียบเท่ารัฐบาล
ศาล และอัยการ
- แต่งตั้งโดยสภาประชาชนแห่งชาติ
การแก้ไขรัฐธรรมนูญของจีนครั้งนี้ส่งผลให้ประธานาธิบดี สี
จิ้นผิง ที่จะหมดวาระในปี 2023
สามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้ โดยการกำหนดให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 10 ปี เป็นแนวคิดของผู้นำ เติ้ง
เสี่ยวผิง เพื่อลดปัญหาแบบในสมัยของผู้นำ เหมา เจ๋อตง
ซึ่งหากมองข้อดีของการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ คือ
การเพิ่มความต่อเนื่องของนโยบายสี จิ้นผิง แต่อีกมุมคือหากหมดวาระของสี จิ้นผิง
คนต่อไปจะมีความสามารถเท่าสี จิ้นผิง หรือไม่
สงครามการค้าเต็มรูปแบบระหว่างสหรัฐฯ
และจีน
สหรัฐประกาศมาตรการการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอะลูมิเนียม10% ฝั่งจีนตอบโต้สหรัฐโดยการเริ่มขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ 128 รายการ
ต่อมาสหรัฐฯประกาศรายชื่อสินค้านำเข้าจากจีนที่จะถูกจัดเก็บภาษีกว่า
25% 1300 รายการ โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
เช่น หุ่นยนต์ที่ใช้ในอุตสาหกรรม และอุปกรณ์สื่อสาร
การลงนามครั้งประวัติศาสตร์ของสองเกาหลี
เกาหลีเหนือ
และเกาหลีใต้ได้ลงนามร่วม “ปฏิญญาปันมุนจอม” ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
ภาพ
: รายการมิติโลก
- เปลี่ยน “เขตปลอดทหาร” ให้เป็น “เขตสันติภาพ”
- ตั้งสำนักงานผู้แทนในเมืองแกซอง
- เตรียมจัดงานรวมญาติสองเกาหลีตามชายแดนอีกครั้ง
- เชื่อมต่อและพัฒนาถนนและเส้นทางรถไฟข้ามชายแดน
- เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาร่วมกันต่อไป เช่น
เอเชียน เกมส์
สหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน
พร้อมเดินหน้าใช้มาตรการคว่ำบาตรกับอิหร่านต่อไป
โดยข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านเป็นข้อตกลงระหว่างอิหร่านและประเทศมหาอำนาจอีก
5 ประเทศ (สหรัฐฯ จีน รัสเซีย เยอรมนี
และฝรั่งเศส) เมื่อปี 2015 ว่าอิหร่านจะจำกัดโครงการนิวเคลียร์แลกกับการที่ประเทศอื่นๆจะยุติการคว่ำบาตรอิหร่าน
แต่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐไม่เห็นด้วย
ขณะที่อิสราเอลก็กล่าวหาอิหร่านว่ายังคงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างลับๆ
อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศส
อังกฤษ และเยอรมนี ยังคงรักษาข้อตกลงนิวเคลียร์นี้ต่อไป ด้านประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ของอิหร่าน
กล่าวชัดว่ายังคง "เดินหน้าร่วมกับประชาคมโลกต่อไป"
ความเป็นไปได้ต่อไปในอนาคต
1.
ความขัดแย้งในตะวันออกกลางอาจเพิ่มมากขึ้น
จากการแสดงจุดยืนของสหรัฐฯในการสนับสนุนซาอุดิอาราเบีย
ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามของอิหร่าน
2.
อาจกระทบถึงสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์
(NPT) ซึ่งเป็นพื้นฐานของข้อตกลงอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน
การเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย
ครั้งแรกสำหรับมาเลเซียหลังจากได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1957 โดยดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด
สามารถชนะการเลือก ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียอีกครั้ง
สาเหตุการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์
1.
พฤติกรรมการคอรัปชั่นของรัฐบาลนาย นาจิบ ราซัค
พรรคแนวร่วมบีเอ็น กับการบริหารประเทศที่ไม่โปร่งใส ค่าครองชีพสูง
การปิดกั้นเสรีภาพของสื่อ และการปิดกั้นการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน
ทำให้ประชาชนไม่พอใจและต้องการการเปลี่ยนแปลง
2.
ประกอบกับรัฐบาลฝ่ายค้าน ได้หาเสียงนโยบายที่นำการเปลี่ยนแปลง
คือ นโยบายกระจายรายได้ที่ไม่แบ่งแยกกีดกันทางเชื้อชาติ
นโยบายช่วยเหลือชนชั้นแรงงานให้มีสถานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นโยบายสร้างระบบเศรษฐกิจืั้เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันเพื่อลดการผูกขาด และ
นโยบายการเปิดเสรีทางการเมือง
รายละเอียดเพิ่มเติม อ่านต่อได้ที่
ประจักษ์ ก้องกรีติ. การ “ปฏิวัติ” ผ่านคูหาเลือกตั้งที่มาเลเซีย(2018) จาก: https://www.the101.world/election-malaysia/
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ไม่ร่วมลงนามในแถลงการณ์ปิดการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก
(G7)
หลังจากการมีความเห็นขัดแย้งกับ
จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ระหว่างการเจรจาเรื่องมาตรการภาษี
และการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าต่างๆ ทรัมป์ยังได้แสดงความคิดเห็นในทวิตเตอร์ว่า
แคนาดาเอาเปรียบเกษตรกรสหรัฐฯด้วยการเก็บภาษีผลิตภัณฑ์นมจากสหรัฐฯ สูงกว่า 270% โดยสำนักข่าว CNN ระบุว่า การกล่าวของทรัมป์ เกิดขึ้นหลังจากนายกแคนาดาแถลงข่าวว่า
ภาษีเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ เป็นมาตรการที่ไม่สมเหตุสมผล
พร้อมยังกล่าวว่า
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และ ผู้นำสหภาพยุโรป เอาเปรียบสหรัฐฯด้านการค้า
และคัดค้านเห็นต่างกรณีการเรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ
แน่นอนว่าการขัดแย้งของผู้นำ
G7 ครั้งนี้
ทำให้มีการวิเคราะห์ว่าจะเกิดการตอบโต้ทางการค้าระหว่างประเทศโลกเสรีได้
การประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โดนัล ทรัมป์ และ ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ คิม จองอึน (Trump Kim Summit 2018)
ในวันที่
12 มิถุนายน 2018 ณ โรงแรมคาเพลลา เกาะเซนโตซา สาธารณรัฐสิงคโปร์
ได้มีการลงนามแถลงการณ์ร่วม ซึ่งมีสาระสำคัญ 4 ข้อ ได้แก่
1.
สหรัฐฯ
และเกาหลีเหนือจะสถาปนาความสัมพันธ์ครั้งใหม่
2.
สหรัฐฯเกาหลีเหนือจะร่วมสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนบนคาบสมุทรเกาหลี
3.
เกาหลีเหนือจะปลดอาวุธนิวเคลียร์
(Denuclearization) และสหรัฐฯจะรับประกันความมั่นคงให้กับเกาหลีเหนือ
ตามคำมั่นในประกาศปันมุนจอมระหว่างเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ 27 เมษายน ที่ผ่านมา
4.
สหรัฐฯและเกาหลีเหนือจะฟื้นฟูข้อตกลง
POW/MIA : การร่วมค้นหาศพ
เชลยนักโทษและทหารที่สูญหายระหว่างภารกิจเพื่อนำตัวส่งคืน
-ประเด็นสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ
ไม่มีการพูดคุยระหว่างการหารือครั้งนี้
แต่ทรัมป์ได้กล่าวว่ามีการพูดคุยส่วนตัวแล้ว
- สหรัฐจะยุติการซ้อมรบประจำปีร่วมกันกับกองทัพเกาหลีใต้ แต่ยังคงทหารไว้ ซึ่งสอดคล้องกับที่จีนเคยเสนอข้อแนะนำ “Freeze to freeze” โดยมีเนื้อหาว่าสหรัฐจะหยุดการซ้อมรบบนคาบสมุทรเกาหลีแลกกับการที่เกาหลีเหนือจะยกเลิกโครงการทดสอบนิวเคลียร์ทั้งหมด
- Mike Pompeo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ
กล่าวว่า สหรัฐยังคงการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ จนกว่ากระบวนการ Denuclearization
จะสมบูรณ์
ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ลงนามคำสั่งบริหารพิเศษ
เพื่อแก้ปัญหาการทำให้พ่อแม่ต้องแยกจากลูกๆ จากการบังคับใช้กฎหมายตามนโยบาย “zero tolerence”
หลักจากการถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ประธานาธิบดี
โดนัล ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งบริหารพิเศษ อนุญาตให้พ่อแม่และลูกๆที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายสามารถอยู่ด้วยกันได้
โดยการบังคับใช้กฎหมายตามนโยบาย “zero
tolerence” เดิมเป็นการแยกคุมขังผู้อพยพผิดกฎหมาย ผู้ใหญ่ จากเด็กๆ
ซึ่งจะถูกดูแลอยู่ในอีกสถานที่
อย่างไรก็ตามการบังคับใช้กฎหมายสำหรับการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายยังคงเดินหน้าต่อไป
ซาอุดิอาราเบียบังคับใช้กฏหมายอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถขับรถได้
เป็นครั้งแรกสำหรับประเทศซาอุดิอาราเบียในการอนุญาตให้ผู้หญิงขับรถได้
หลังจากที่เป็นประเทศเดียวในโลกที่ห้ามผู้หญิงขับรถ
โดยก่อนหน้านี้ผู้หญิงซาอุดิอาราเบียต้องให้ผู้ชายขับรถให้แม้จะเป็นระยะทางใกล้ก็ตาม
ขอขอบคุณแหล่งอ้างอิงเพิ่มเติมจาก
- http://sesao24.esdc.go.th/prachasamphanth/nyobaysanakngankhnakrrmkarkarsuksakhanphunthanpingbpramanphs2561
- https://www.bbc.com/thai/thailand-44516602
- https://www.bbc.com/thai/thailand-44164689
- https://www.bbc.com/thai/thailand-44530324
- https://www.posttoday.com/politic/news/554658
- https://www.voicetv.co.th/read/H1uh-ns-m
- https://www.voicetv.co.th/read/H1uh-ns-m