วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2560

Trump's Vision สหรัฐอเมริกาในมือทรัมป์


นโยบายทรัมป์ ความเป็นไปของสหรัฐอเมริกาในอนาคต

             คำว่า “Make America Great Again” เป็นคำกล่าวที่ถือว่าเป็นที่จดจำไปทั่วโลกของโดนัล ทรัมป์ที่ได้กล่าวไว้ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง จนในที่สุดเอาชนะใจคนอเมริกันที่ไปลงคะแนนเสียง และส่งผลให้ทรัมป์ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐอเมริกา
            วิสัยทัศน์ของทรัมป์ในด้านนโยบายการบริหารประเทศ มีความแตกต่างกับประธานาธิบดีคนก่อนอย่างบารัก โอบามา ทั้งอาจมาจากพื้นหลังดั้งเดิมหรือจะเป็นมุมมองการเมืองที่มีความเห็นไม่ตรงกัน ส่งผลต่อความเป็นไปในอนาคตของทั้งสหรัฐอเมริกาและส่งผลกระทบไปทุกประเทศทั่วโลก

ยกเลิก Obamacare

นโยบายแรกที่ทรัมป์ได้ใช้อำนาจประธานาธิบดีเซ็นอนุมัติหลังจากการเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ คือ การยกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพของโอบามา (Obama Care) ที่โอบามามีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวอเมริกันในการลดค่าใช้จ่าย ในส่วนนี้ทรัมป์ได้มีความคิดเห็นตรงกันข้ามกับโอบามาโดยชัดเจน เพราะจากวิสัยทัศน์ของพรรค Republican ของทรัมป์ที่โดยส่วนใหญ่สมาชิกพรรคประกอบธุรกิจขนาดใหญ่ จะไม่ให้การสนับสนุนในเรื่องการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายแก่คนยากไร้ ซึ่งตรงกันข้ามกับพรรค Democrat ของโอบามา โดยสมาชิกพรรคคนหนึ่งได้กล่าวว่าหากยกเลิกนโยบายประกันสุขภาพต่างๆจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายประเทศได้หลายล้านเหรียญสหรัฐ

ถอนตัวจากการเป็นสมาชิก TPP

ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภูมิภาคแปซิฟิค หรือ TPP : Trans-Pacific Partnership ถือเป็นเขตการค้าเสรี (FTA) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยประเทศสมาชิก ได้แก่ สหรัฐ ญี่ปุ่น แคนาดา เม็กซิโก ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน เวียดนาม ชิลี เปรู โดยมีสหรัฐเป็นผู้นำหลัก ดำเนินการในสมัยของโอบามา
การใช้อำนาจประธานาธิบดีถอนตัวออกจาก TPP ของทรัมป์ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสหรัฐมากมาย เพราะTPP เป็นการดำเนินงานของโอบามาที่ยังไม่ได้ผ่านการอนุมัติจากสภา Congress และยังไม่มีผลเป็นรูปธรรม มีเพียงการลงนามการเป็นภาคีในความร่วมมือ ความตั้งใจของสหรัฐในสมัยโอบามา ที่ต้องการคานอำนาจทางการค้ากับจีนในภูมิภาคเอเชียดูเหมือนจะริบหรี่ลงในสมัยของทรัมป์ แน่นอนว่าทรัมป์ต้องการลดค่าใช้จ่ายของสหรัฐภายนอกประเทศ พร้อมหันกลับมาพัฒนาในสหรัฐแทน
อย่างไรก็ตามการถอนตัวของสหรัฐ  ที่เป็นตัวการหลัก ส่งผลต่อความไว้วางใจต่อประเทศสมาชิกอื่นๆใน TPP แม้ว่าญี่ปุ่น หนึ่งในประเทศที่มีกำลังเศรษฐกิจเจริญเติบโตในเอเชีย ตั้งใจสานต่อความร่วมนี้ก็ตาม โดยที่นายกญี่ปุ่น ชินโซะ อาเบะ กำลังอยู่ในการนัดหารือใหม่เรื่องนโยบายเศรษฐกิจกับประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์

เปลี่ยนแปลง NAFTA

ความร่วมมือทางการค้าเสรีที่สำคัญอีกหนึ่งเขต คือ ข้อตกลงการค้าเสรีในทวีปอเมริกาเหนือ NAFTA ที่ประกอบไปด้วย สหรัฐอเมริกา แคนาดา และแม็กซิโก
ทรัมป์ได้มีคำสั่งนัดเจรจา แก้ไขข้อตกลงนี้กับผู้นำทั้งอีกสองประเทศ โดยเฉพาะกับแม็กซิโก ซึ่งรวมไปถึงเรื่องการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนระหว่างกัน และการตรวจเข้มเรื่องการเข้าสหรัฐของคนแม็กซิกัน

Promote Pipeline

วิสัยทัศน์หนึ่งของทรัมป์จากพรรค Republican คือ การไม่ส่งเสริมการลดภาวะโลกร้อน และการรักษาสิ่งแวดล้อม เหตุผลหนึ่งคะเนได้จากการที่ทั้งทรัมป์เองและสมาชิคพรรคคนอื่นมีกิจการส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีความจำเป็นในการใช้น้ำมันเป็นเชื่อเพลิง แน่นอนว่าหากลดกำลังการผลิตลง และเข้าร่วมข้อตกลงความร่วมมือลดโลกร้อนต่างๆแบบที่สมัยโอบามาปฏิบัติ จะส่งผลต่อธุรกิจ โรงงานอุตสาหกรรมมหาศาล และอีกทางหนึ่งคือหากประเทศลดอุตสาหกรรมการผลิตลง จะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศในโลกกาภิวัตน์เช่นนี้ (วิเคราะห์ตามหลัก Limit to Growth : Green Theory)
สอดคล้องกับการเดินหน้าโครงการสร้างท่อส่งน้ำมัน Keystone XL และ Dakota Access ของทรัมป์ ที่โอบามาสั่งยุติชั่วคราว จากการมีผู้เดินขบวนต่อต้านโครงการนี้จำนวนมากรวมถึงคนในแคนาดา จากผลที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม


ต่อต้าน Refugees

อีกหนึ่งปราศรัยสำคัญที่สร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลก คือ นโยบายต่อต้านคนมุสลิมและผู้อพยพเข้าสหรัฐ เมื่อเข้าดำรงตำแหน่ง ทรัมป์เตรียมใช้คำสั่งอำนาจประธานาธิบดี ห้ามผู้อพยพ ที่ลี้ภัยมาจากประเทศมุสลิมบางประเทศเข้าสู้พรมแดนสหรัฐ เช่น จากซีเรีย อิรัก อิหร่าน เยเมน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน


Mexican Border wall

รวมถึงอีกวาทะสำคัญที่ต่อต้านคนแม็กซิโกเข้าสหรัฐ จากการที่ทรัมป์มองว่าคนแม็กซิโกเข้ามาแย่งงานคนอเมริกัน 
แต่แรกทรัมป์เสนอให้แม็กซิโกเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าในการสร้างเองทั้งหมด แต่ประธานาธิบดีเอ็นริเก นิเอโตของแม็กซิโ ปฏิเสธว่าจะไม่จ่ายเด็ดขาด ถ้าจะต้องจ่ายต้องเป็นผลประโยชน์โดยทั้งสองฝ่ายเท่านั้น
ทรัมป์ จึงตอบโต้โดยจะปรับภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก 5-20% เพื่อนำค่าขึ้นภาษี มาจ่ายค่ากำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก ส่วนนี้ผู้วิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่าส่งร้ายมากกว่าผลดี โดยเฉพาะกับประชาชนชาวอเมริกันเอง เพราะสินค้าโดยส่วนใหญ่นำเข้ามาจากแม็กซิโก หากขึ้นภาษีนำเข้าประชาชนอเมริกันจะต้องแบกรับภาระมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีโรงงานที่ตั้งอยู่ในแม็กซิโกโดยส่วนมาก
จากการปฏิเสธของประธานาธิบดีแม็กซิโกส่งผลให้การนัดพบกันระหว่างทรัมป์และเอ็นริเกเป็นอันต้องยกเลิกไป ล่าสุดประกาศจากพรรค Republican แถลงว่าจะนำงบประมาณสำรองที่ไม่ใช่ส่วนของงบประมาณส่วนกลาง ออกมาใช้ในการสร้างกำแพงแทน โดยต้องรออนุมัติงบจากสภา Congress เสียก่อน


แหล่งอ้างอิง ขอขอบคุณ
Twitter @pannikawanich
@Suchanee_R
รายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ,27/01/2017


วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2560

Post-Brexit นี่เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร...

         หลักจากปรากฏการณ์ผลประชามติของ*สหราชอาญาจักรออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป นำไปสู่กระแสการเมืองฝ่ายขวานิยม ได้อย่างไร
(*ไม่ใช่ของอังกฤษประเทศเดียว รวมทั้ง อังกฤษ ไอร์แลนด์เหนือ สกอตแลนด์ เวลส์)

ทำไมถึงอยากออก

โดยพื้นฐานแล้วอังกฤษไม่มีความประสงค์ที่จะเป็นสมาชิกองค์กรเหนือรัฐตั้งแต่ต้น (ตั้งแต่เป็น EEC ก่อนมาเป็น EU) แต่ปีที่ผ่านๆมาปัญหาเรื่องผู้อพยพและภัยก่อการร้ายกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชากรตัดสินใจเช่นนี้

    -เรื่องผู้อพยพ ผลที่ตามมาจากการก่อการร้าย + ต้องให้ที่พักพิง งาน + แรงงานเสรีที่เคลื่อนย้ายมาทั่วEUแย่งงาน เอาเปรียบเรื่องละเว้นภาษี สวัสดิการ คนในประเทศ  (ถ้าออกจากEUจะกำหนดเกณฑ์ กฎหมาย เรื่องผู้ลี้ภัยได้เอง + เหตุผลใน การรักษาอัตลักษณ์ของชาวอังกฤษเดิมไว้)
    -สหราชอาณาจักรต้องจ่ายเงินในฐานะประเทศสมาชิกปีละหลายแสนล้านบาท (ประมาณ9แสนล้าน) เกิดความคิดว่าเอาเงินมาพัฒนาประเทศจะเกิดประสิทธิภาพมากกว่า
-สหภาพยุโรปเป็น Supra-International Organization องค์กรเหนือรัฐ มีศาลยุโรป มีกฎหมายที่ออกโดยสภายุโรป ทุกประเทศสมาชิกต้องปฏิบัติตาม (ไม่เป็นอิสระ เลือกตั้งเองไม่ได้)

    -จาก #วิกฤตกรีซ และก่อนหน้านี้ในหลายๆประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจยุโรปย่ำแย่ ประเทศสมช.ต้องให้เงินช่วยเหลือ รักษาความน่าเชื่อถือของเงินยูโร (เยอรมนี กับฝรั่งเศสนำเงินช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก เพราะเสรษฐกิจดี และอังกฤษถือโอกาสออก เพราะเดิมใช้ค่างินปอนด์ แต่ถ้าเศรษฐกิจยุโรปล่มจะส่งผลกระทบกับอังกฤาเองด้วยเช่นกัน)

    -นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ประกาศลาออก (เพราะตนเองสนับสนุนให้ Remain)
* ความจริง ประชามติไม่มีผลทางกฎหมาย แต่คาเมรอนแสดงความรับผิดชอบ และไม่ให้เกิดข้อกังขาเวลาทำงานต่อ (บางส่วนมองว่าที่คเมรอนลาออก เพราะไม่ต้องการที่จะรับผิดชอบสถานการรณ์ทั้งทางเศรฐกิจ การเมืองหลักจากนี้)

ระหว่างนี้อังกฤษทำอะไร


                                                                                                                  ภาพ : BBC
                                                  
หลักจากที่นางทเรซา เมย์ (Theresa May) นายกคนใหม่ของอังกฤษขึ้นสู่ตำแหน่ง ระหว่างนี้ทั้งสหราชอาณาจักรรอเจรจากับผู้นำประเทศต่างๆเรื่องสัญญาที่เคยทำร่วม รอถอดถอนออกจากสภาพการเป็นสมาชิก

 
  ระยะเวาลโดยประมาณ 2 ปีสำหรับกระบวนการถอดถอนตาม มาตรา 50 ของ สนธิสัญญาลิสบอน ปี2009
ที่กำหนด ให้สหราชอาณาจักรเข้าสู่ขบวนการถอดถอน
เท่ากับว่า อังกฤษกลับเข้าสู่สมาชิกสหภาพยุโรปไม่ได้อีกแล้ว ถ้าจะเข้ามาอีกต้องได้รับความยินยอมจาก 27 ประเทศสมาชิกทั้งหมด

ผลกระทบต่อไทย

 เศรษฐกิจ ระยะสั้นๆ ทองคำราคาผันผวน หุ้นตก ค่าเงินบาทอ่อน เพราะ ไทยส่งออกไปยังอังกฤษแค่ 2% นักลงทุนอังกฤษในไทยมีจำนวนไม่มาก
****
- มอร์แกน สแตนลีย์ บริษัทการลงทุนจากสหรัฐฯ ประกาศย้ายตำแหน่งงาน 2,000 ตำแหน่งไปยังเยอรมนีและไอร์แลนด์แทนอังกฤษ

ระหว่างนี้อังอังกฤษพยุงเศรษฐกิจไม่ให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงไปกว่านี้ อย่างไรก็ตามหุ้นตก ราคาน้ำมันร่วง ค่าเงินปอนด์ยังคงตก
-อังกฤษเสียสถานะประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 5 ของโลกให้ฝรั่งเศส หลังจากเงินปอนด์ร่วงหนักจาก Brexitจนทำให้มูลค่าเศรษฐกิจในประเทศลดลง

-นักวิชาการอังกฤษกลัวเกิดภาวะสมองไหลจาก Brexit นักวิชาการจะอพยพไปทำงานในอียู

ประเด็นเชื่อมโยงสำคัญ

♡♡♡Domino Effects♡♡♡
 
       ปัญหาอยู่ที่ผลเกิดกับทั้งสหราชอาณาจักร ที่รวมประเทศอื่นในเครือจักรภพไปด้วยสกอตแลนด์ เรียกร้องที่จะทำประชามติ Remain ในสหภาพยุโรปเหมือนเดิม (ต้องการอยู่euต่อ & ต้องการออกแยกประเทศ ออกจาก UK รอบที่ 2)  บวกกับประชาชนส่วนใหญ่ทั้งในฝรั่งเศส อิตาลี ก็เรียกร้องประชามติออกจาก EU
 

       ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

      สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากนโยบายการเปิดประเทศ รับผู้อพยพที่ลี้ภัยจากสงครามกลางเมือง จากประเทศแถบตะวันออกกลาง และในแอฟริกาเอง ภาพในแง่ลบจากผู้อพยพทั้งจาก เหตุการณ์ก่อการร้ายต่างๆที่เกิดขึ้นในสถานที่สำคัญหลายๆประเทศทั้งในฝรั่งเศส เบลเยี่ยม และเยอรมนี ผู้กระทำการเหล่านี้ส่วนใหญ่ตรวจสอบพบว่าแฝงตัวมาในกลุ่มผู้อพยพเพื่อมาก่อเหตุ ในส่วนของประเทศที่เปิดรับผู้อพยพแน่นอนว่าต้องแบกรับภาระมหาศาลทั้งในเรื่องของการหาที่พักพิง อาหาร จนไปถึงการหาอาชีพเป็นหลักแหล่ง 
      มุมมองจริยธรรม ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ตามแนวคิด พลเมืองโลกนิยม cosmopolitanism ที่มองว่ามนุษย์ทุกคนในโลกเป็นประชากรโลกเช่นกัน ฉะนั้นควรช่วยเหลือในฐานะเพื่อนมนุษย์โลก แม้ว่าจะมีความแตกต่างทางด้านพื้นเพวัฒนธรรม เชื้อชาติก็ตาม

      มีขาวก็ต้องมีดำ มีแง่ดีก็ต้องมีแง่ร้าย

     ประชากรบางกลุ่มที่เห็นผลร้าย จากภาพลักษณ์ผู้อพยพในแง่ลบ ทั้งจากสื่อและสังคมออนไลน์ และมองว่าไม่ควรแบกรับภาระนี้อีกต่อไป เพราะไม่สามารถมองเห็นผลประโยชน์จากจุดยืนเดิม อีกทั้งกลุ่มคนผู้ลี้ภัยเหล่านี้เป็นคนนอกพรมแดนรัฐ เมื่อเข้ามาอาศัยในรัฐของตนต้องมีการจัดหาแหล่งที่อยู่ อาชีพ เกิดการแต่งงาน เชื้อชาติมีความหลากหลายมากขึ้น ไม่เป็นชาติเดิมโดยแท้แต่กำเนิดอย่างในอดีต เกิดความรู้สึกหวงแหนในความเป็นเอกลักษณ์เดิมของตน นำไปสู่การหันเหเข้าสู่สังคมอนุรักษ์นิยม (ฝ่ายขวานิยม)
 

ภาษาอังกฤษถูกลดความสำคัญลงจากการที่เป็นภาษาราชการ แทนที่โดยภาษาฝรั่งเศสกับภาษาเยอรมัน

          - อยู่ในขั้นตอนพิจารณา หมายความว่า ถ้าอังกฤษจะทำสัญญากับอียูด้วย ก็ต้องนำไปแปลเป็นภาษาอังกฤษเอง
อย่างไรก็ตาม ทั้งภาษาฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษแต่เดิมก็เป็นภาษาราชการ ภาษาที่ใช้โดยส่วนมากในประชาคมยุโรปอยู่แล้วรองจากภาษาอังกฤษ ในส่วนของตรงนี้จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงภายในมากนัก แต่จากภายนอกอาจมีผลกระทบไม่มากก็น้อย
 
แหล่งอ้างอิง
BBC / RT / AFP / The Guardian
@Carina3603
@pannikawanich
@Prapapoom

วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2560

Hit Words ศัพท์การเมืองฮิตๆ

รวบรวมคำศัพท์การเมืองที่น่าสนใจ ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ 


                                    อัพเพิ่มเรื่อยๆ เมื่อเจอคำใหม่ๆ 

1.Post-Truth 
หมายถึง การใช้อารมณ์ ความเชื่อ ความเห็นส่วนตัว มากกว่าข้อเท็จจริง ในสภาวะการแสดงความคิดเห็นประเด็นการเมืองต่างๆ

ถือเป็นศัพท์ค้นหายอดฮิตของ Oxford Dic ปี 2016 โดยถูกนำมาใช้พูดถึงกับปรากฏการณ์การเมืองระหว่างเทศทั้งในปรากฏการณ์ Brexit และ ปรากฏการณ์การผลเลือกตั้งประธานาธบดีสหรัฐที่ผ่านมา


2. Wing-it 
ถูกกล่าวโดยนักการทูตคนหนึ่งกล่าวถึงทรัมป์ ในทางบวก หมายถึง สามารถด้น พูดสดๆ แต่ความหมายทางลบ หมายถึง มั่วไปเรื่อยๆ ไม่มีการเตรียมการมา

3.alternative facts
ข้อเท็จจริงทางเลือก มีความหมายเท่ากับ "ความเท็จ"

                                                                                   ที่มาโดย คุณสุธิชัย หยุ่น twitter @suthichai

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2560

Blog นี้เพื่ออะไร realploy แถลงไข


       สวัสดีค่ะ มีนามว่า ธวัลพร เพ็ชรเรือนทอง เพื่อนๆเรียก 'พลอยใส' ขณะนี้เป็นนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ สาขาการระหว่างประเทศ (จะเรียก IR IA ก็ตามสะดวก) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แน่นอนว่าจุดประสงค์ของการสร้างบล็อกนี้ขึ้นมาหลักๆคือ

     1.เรียนคณะนี้ สาขานี้ต้องอ่านข่าวต่างประเทศ (ไม่อ่านก็ทำข้อสอบไม่ด้ายยย) โดยเฉพาะข่าวการเมือง แต่จริงๆเป็นคนที่ชอบติดตามข่าวโดยส่วนตัว และปกติก็แคปไม่ก็favouriteไว้(ตามประสาชาวทวิตเตอร์)
     มาถึงจุดๆหนึ่งที่เมื่อหลายๆข่าวสะสมไว้ ความจำก็เต็มค่ะ... เฟบไว้นานๆเข้าในทวิตก็หาไม่เจอ เยอะเกิ้นนน จึงเกิดความคิดที่จะจัดสรรเรื่องราวให้อยู่ในกรอบเดียวกันดีกว่า จึงเป็นที่มาของบล็อกๆนี้แหละ

   2.ทั้งนี้เนื้อหาข่าวทั้งหมดมาจากหลากหลายที่มาทั้งจากที่ได้ฟัง ได้ดูจากโทรทัศน์ และตามอ่านจากทวิตเตอร์ โดยสำนักข่าวทั้งในและต่างประเทศ โดยทุกครั้งจึงขออนุญาตที่จะนำเนื้อหามาไว้ในบล็อกๆนี้ โดยจะการอ้างอิงที่มาของแหล่งข่าวทุกครั้ง เพื่อเป็นการให้เกียรติและความน่าเชื่อถือ

   3.อย่างที่บอกวัตถุประสงค์หลักคือเก็บไว้อ่านเองค่ะ คราวนี้ก็คิดว่าอ่านเองคนเดียวคงไม่ได้ประโยชน์อะไร จึงคิดว่าควรเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นเห็นจะสมควรมากกว่า

       ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อการค้าใดๆทั้งสิ้น ไม่ฝากร้านนะคะ.....

   4.ภาษาที่จะใช้ในการลงเนื้อหาเป็นภาษากึ่งทางการนะคะ ง่ายๆคือนึกอะไรก็พิมพ์ลงไป แต่ยังคงถ้อยคำสุภาพไว้

โดยการอัพทุกครั้งจะพยายามสรุปเนื้อหาข่าวสำคัญแต่ละสัปดาห์(อย่างน้อย) เนื้อหาจะเป็นข่าวต่างประเทศโดยส่วนใหญ่ (ถนัดแต่ข่าวพวกนี้จริงๆ แต่ถ้าเกี่ยวกับประเทศไทยอาจจะมีการมาลงตามความพึงพอใจและความขยันอันน้อยนิดของตนเอง)


           สุดท้าย ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้าย หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกคนนะคะ <3


          ติดต่อสอบถาม twitter @realploy96 , FB : Ploysai Tawanporn้

โดนัล ทรัมป์ Hottest Of The YEAR !

        Donald Trump "What he has done..."                

                                                                                                                      ภาพ : FOX10

            มีเรื่องมาให้อึ้งได้ทุกครั้งทุกครากับว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกาอย่าง "โดนัล ทรัมป์" มาคราวนี้ในงานแถลงข่าวครั้งล่าสุด (11มกราคม) ที่ผ่านมา ขณะที่นักข่าวสำนักข่าวต่างๆกำลังตะโกนแย่งถามคำถาม หนึ่งในนั้นแน่นอนCNNเจ้าเก่าก็ยกมือถามเป็นปกติ แต่ทรัมป์กลับเลือกที่จะปฏิเสธ พร้อมทั้งชี้หน้าบอกว่า ' สำนักข่าวของพวกคุณแย่มาก! รายงานข่าวปลอม ผมไม่ได้ถามคุณ อย่าเสียมารยาท!' ทั้งนี้นักข่าวCNNคนนี้ก็ยังมีสปีริตทำหน้าที่ต่อไป แต่ทรัมป์กลับปฏิเสธที่จะตอบคำถามตลอด
                                 
   ล้วประเด็นข่าวคือเรื่องอะไร.....

ประเด็นมาจากเรื่องรายงานเอกสาร 35 ฉบับที่รั่วไหลออกมา โดยเปิดโปงว่าทางการรัสเซียมีส่วนร่วมมือกับทรัมป์ในการโกงการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่รายงานเรื่องนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่งสำนักข่าวอย่าง CNN ก็ได้เขียนรายงานข่าวถึงรายงานฉบับนี้ เช่นเดียวกับสำนัก BuzzFeed ที่ได้เผยแพร่รายละเอียดออกมาเรียบร้อย



               ทางด้านของทรัมป์ก็ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องเอกสารรายงานฉบับนี้ว่าเป็นเรื่องที่กุขึ้นมา แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า รัสเซียอาจเป็นฝ่ายที่แฮกข้อมูลไปจริงๆ และไม่ปฏิเสธหากปูตินจะชอบทรัมป์ เพราะถือเป็นผลประโยชน์อย่างยิ่ง



               ส่วนในเรื่องของประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อน ทรัมป์ได้ให้ลูกชายทั้งสองคนเป็นคนดูแล โดยจัดการถ่ายโอนทรัพย์สินตั้งเป็นกองทุน แต่อย่างไรก็ตามเจ้าของธุรกิจก็ยังคงเป็นชื่อทรัมป์



              อีกนโยบายที่เป็นที่ฮือฮาที่สำคัญ คือ การสร้างกำแพงชายแดนระหว่างแม็กซิโก ในครั้งนี้ทรัมป์ยังคงยืนยันที่จะให้ทางรัฐบาลแม็กซิโกเป็นฝ่ายออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ทั้งนี้ประธานาธิบดีเม็กซิโก Enrique Neito ได้ออกมาปฏิเสธที่จะเป็นฝ่ายออกค่าใช้จ่ายอย่างแน่นอน


Special note รู้ไว้ก็ดีนะ……..


เป็นส่วนของคณะรัฐบาลของทรัมป์ในตำแหน่งที่สำคัญและน่าสนใจ

ผู้หญิง 2 คนแรกในทีมบริหารของทรัมป์อย่าง นิกกี เฮลีย์  (Nikki Haley) เป็นทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติ และ นางเบตซี เดวอส (Besty DeVos) ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 
  •                 นิกกี เฮลีย์  เป็นผู้ที่ไม่ใช่คนผิวขาวคนแรกที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายทรัมป์ให้ได้รับตำแหน่งระดับสูง แม้ก่อนหน้าในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง นิกกีไม่เห็นด้วยกับนโยบายต่อต้านมุสลิมของทรัมป์ อย่างไรก็ดีเหตุผลที่ทรัมป์เลือกเธอมาดำรงตำแหน่งนี้เพราะผลงานที่ผ่านมา
  •                 เช่นเดียวกับในส่วนของ เบตซี เดวอส ที่เคยวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ในช่วงหาเสียง แต่ขณะเดียวกันเธอก็เป็นนักเคลื่อนไหวและสนับสนุนเพื่อองค์กรการศึกษา

                ในการเลือกผู้หญิงมาดำรงตำแหน่งในคณะบริหารของทรัมป์เป็นที่น่าจับตามองไม่น้อย สืบเนื่องมาจากภาพลักษณ์ก่อนหน้านี้ของทรัมป์ ในด้านการให้เกียรติผู้หญิง เป็นที่กล่าวขานและถูกวิจารณ์ในแง่ลบอย่างมากจากมุมมองของทั่วโลก


  • ตำแหน่งสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ โดยทรัมป์ได้เลือก เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน  (Rex Tillerson) เจ้าของธุรกิจน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง ExxonMobile โดยหลายฝ่ายมองว่าเขาจะมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัสเซีย เพราะ เขามีธุรกิจมากมายที่ลงทุนในรัสเซีย


  • ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างจีน ก่อนหน้านี้ที่ทรัมป์ได้ต่อสายถึง ไช่ อิงเหวิน (Tsai Ing-wen) ประธานาธิบดีไต้หวัน แน่นอนว่าการกระทำเช่นนี้ทำให้จีนแผ่นดินใหญ่ไม่พึงพอใจเป็นอย่างมาก บวกกับการที่ช่วงนี้ปัญหาข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ระหว่างจีนกับสหรัฐมีท่าที make war กันหลายครั้ง (จะว่าไปบริเวณนี้สหรัฐจะเข้ามามีส่วนทำไม คิดเอง….)

อย่างไรก็ตามทรั้มป์ก็แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงแน่นแฟ้นเช่นเดิม โดยการวางตัว เทอร์รี่ แบรนด์สตัด (Terry Branstad)  ดำรงตำแหน่ง ทูตสหรัฐประจำปักกิ่ง บุคคลคนนี้มีไม้ตายคือ เป็นสหายเก่าคนสนิทของ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนนั่นเอง โดยเขาเป็นอดีตผู้ว่าการรัฐโอไฮโอ ซึ่งมีบทบาทช่วยให้มลรัฐทำการค้าสินค้าเกษตรกับจีนได้


  • ล่าสุด จากการที่ ทรัมป์ได้แต่งตั้ง จาเร็ด คุชเนอร์ (Jared Kushner) ลูกเขยมหาเศรษฐี ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากในการจัดตั้งคณะรัฐบาลของทรัมป์ โดยทรัมป์ได้แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสว่าการกรำทำเช่นนี้ปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงเป็นประเด็นอีกครั้ง


สำหรับตำแหน่งอื่นๆขณะนี้บางตำแหน่งยังไม่ถูกแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีอีกหลายๆตำแหน่งที่ถูกแต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://edition.cnn.com/interjkactive/2016/11/politics/new-cabinet/


ขอขอบคุณแหล่งอ้างอิงข่าวดีๆ ติดตาม อ่านเพิ่มเติมได้ที่
twitter @CNNPolitics
@pannikawanich
@themomentumco
รายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์,11/01/2017